คำภาษาไทยที่ยืมมาจากภาษาต่างประเทศ
จากสาเหตุข้างต้น ไทยได้ยืมคำภาษาต่าง ๆ เข้ามาใช้ปะปนในภาษาไทยหลายภาษาด้วยกัน ดังนี้- บาลี กัญญา ขัตติยะ วิชา สันติ อิตถี
- สันสกฤต บริษัท โฆษณา ประกาศ ภรรยา แพทย์
- จีน ก๋วยเตี๋ยว ซาลาเปา เต้าฮวย บะหมี่ ลิ้นจี่
- อังกฤษ กอล์ฟ โปรตีน คลินิก ฟอสฟอรัส นิวเคลี์ยร
- เขมร กังวล ถนน บำเพ็ญ เผด็จ เสวย
- ชวา-มลายู กริช กระดังงา ซ่าหริ่ม ปาหนัน อังกะลุง อุรังอุตัง
- เปอร์เซีย กุหลาบ คาราวาน ตราชู บัดกรี สักหลาด
- โปรตุเกส กะละแม กะละมัง สบู่ เลหลัง ปิ่นโต
- ฝรั่งเศส กงสุล ครัวซองต์ คูปอง แชมเปญ บุฟเฟ่ต์
- ญี่ปุ่น กิโมโน คาราเต้ ซูโม ยูโด สุกี้ยากี้
- ทมิฬ กะไหล่ กุลี กานพลู กำมะหยี่ อาจาด
- อาหรับ กะลาสี การบูร กั้นหยั่น กะไหล่ ฝิ่น
- มอญ มะ เม้ย เปิงมาง พลาย ประเคน
- พม่า หม่อง กะปิ ส่วย
สาเหตุที่ภาษาต่างประเทศเข้ามาปะปนในภาษาไทย
การติดต่อสัมพันธ์กันทำให้ภาษาต่างประเทศเข้ามาปะปนอยู่ในภาษาไทย ด้วยสาเหตุหลายประการ พอสรุปได้ดังนี้- สภาพ
ภูมิศาสตร์ คือ ประเทศไทยมีอาณาเขตติดต่อกับประเทศต่าง ๆ ได้แก่ พม่า ลาว
เขมร มาเลเซีย
จึงทำให้คนไทยที่อยู่อาศัยบริเวณชายแดนเดินทางข้ามแดนไปมาหาสู่กันและมีความ
เกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน จึงมีการแลกเปลี่ยนภาษากัน เช่น
คนไทยที่อยู่ในจังหวัดสุรินทร์ ศรีษะเกษ บุรีรัมย์
ก็จะสามารถสื่อสารด้วยภาษาเขมรได้ คนไทยที่อยู่ในจังหวัดปัตตานี ยะลา
นราธิวาส สงขลา รับเอาภาษามาลายูเข้ามาใช้ เป็นต้น
- ประวัติ
ศาสตร์ ชนชาติไทยเป็นชนชาติที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน
มีการอพยพโยกย้ายของคนไทยเข้ามาอยู่ในถิ่นอาศัยปัจจุบัน
ซึ่งแต่เดิมมีชนชาติอื่นอาศัยอยู่ก่อน เช่น เขมร ละว้า มอญ
หรือมีการทำศึกสงครามกับชนชาติอื่น มีการกวาดต้อนเชลยศึกและประชาชน
พลเมืองชนชาติอื่น ๆ ให้มาอาศัยอยู่ในประเทศไทย
ผู้คนเหล่านี้ได้นำถ้อยคำภาษาเดิมของตนเองมาใช้ปะปนกับภาษาไทยด้วย
- ศาสนา
คนไทยมีเสรีภาพในการนับถือศาสนามาเป็นเวลาช้านาน
เมื่อนับถือศาสนาใดก็ย่อมได้รับถ้อยคำภาษาที่ใช้ในคำสอน
หรือคำเรียกชื่อต่าง ๆ ในทางศาสนาของศาสนานั้น ๆ มาปะปนอยู่ในภาษาไทยด้วย
เช่น ศาสนาพราหมณ์ใช้ภาษาสันสกฤต ศาสนาพุทธใช้ภาษาบาลี
ศาสนาอิสลามใช้ภาษาอาหรับ และศาสนาคริสต์ใช้ภาษาอังกฤษ ดังนั้นภาษาต่าง ๆ
ที่ใช้ ในทางศาสนาก็จะเข้ามาปะปนในภาษาไทยด้วย
- การค้าขาย
จากหลักฐานทางด้านประวัติศาสตร์ ชนชาติไทยมีการติดต่อค้าขาย
แลกเปลี่ยนสินค้ากับชนชาติต่าง ๆ มาเป็นเวลาอันยาวนาน เช่น ชาวจีน
ชาวโปรตุเกส ฝรั่งเศส อังกฤษ ฮอลันดา ตลอดถึงญี่ปุ่น
ทำให้มีถ้อยคำในภาษาของชนชาตินั้น ๆ เข้ามาปะปนอยู่ในภาษาไทยเป็นจำนวนมาก
ตลอดเวลาไม่มีวันสิ้นสุด
- วรรณคดี
วรรณคดีอินเดียที่ไทยนำเข้ามา เช่น เรื่องมหากาพย์รามายณะ และมหาภารตะ
แต่งขึ้นเป็นภาษาสันสกฤต อิเหนา
เป็นวรรณคดีที่มีเค้าเรื่องมาจากเรื่องดาหลังของชวา
ด้วยเหตุนี้วรรณคดีทำให้ภาษาสันสกฤตและภาษาชวาเข้ามาปะปนในภาษาไทย
- ความ
สัมพันธ์ทางด้านวัฒนธรรมและประเพณี เมื่อชนชาติต่าง ๆ
เข้ามาสัมพันธ์ติดต่อกับชนชาติไทย หรือเข้ามาตั้งหลักแหล่งอยู่ในประเทศไทย
ย่อมนำเอาวัฒนธรรมและประเพณีที่เคยยึดถือปฏิบัติอยู่ในสังคมเดิมของตนมา
ประพฤติปฏิบัติในสังคมไทย นาน ๆ
เข้าถ้อยคำภาษาที่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมและประเพณีเหล่านั้น
ก็กลายมาเป็นถ้อยคำภาษาที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของคนไทยมากขึ้น
- การ
ศึกษาและวิทยาการด้านต่าง ๆ จากการที่คนไทยเดินทางไปศึกษายังต่างประเทศ
ทำให้ได้ใช้และพูดภาษาอื่น ๆ และรับเอาวิทยาการต่าง ๆ เมื่อสำเร็จการศึกษา
จึงนำภาษาของประเทศนั้นมาใช้ปะปนกับภาษาของตน เช่น ภาษาอังกฤษ
ในปัจจุบันประเทศไทยกำลังเตรียมความพร้อมด้านการศึกษาเพื่อก้าวสู่ประชาคมอา
เซียนและมาตรฐานสากล
โดยการจัดการศึกษาให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ภาษาและวัฒนธรรมประเทศสมาชิกสมาคม
อาเซียนและภาษาที่สามารถสื่อสารกันในสากลโลก ดังนั้นการหลั่งไหลของภาษาต่าง
ๆ ที่จะเข้ามาปะปนในภาษาไทยก็จะเพิ่มมากขึ้น
- ความสัมพันธ์
ทางการทูต การเจริญสัมพันธไมตรีทางการทูต
ในการอพยพโยกย้ายหรือในการติดต่อทางการทูต
ย่อมทำให้ภาษาของเจ้าของถิ่นเดิมหรือผู้อพยพโยกย้ายมาใหม่นำมาใช้ร่วมกัน
เช่น อังกฤษ ฝรั่งเศส
- อพยพย้ายถิ่นฐาน การอพยพย้ายถิ่นฐานมาจากสาเหตุหลายประการ เช่น สภาพเศรษฐกิจต้องไปประกอบอาชีพยังประเทศต่าง ๆ ภัยสงคราม การเมืองการปกครอง
อิทธิพลของภาษาต่างประเทศที่มีต่อภาษาไทย
ภาษาต่างปะเทศที่เข้ามาปะปนในภาษาไทยด้วยสาเหตุต่าง ๆ ดังกล่าวข้างต้น มีอิทธิพลต่อภาษาไทย คือ ทำให้ลักษณะของภาษาไทยเปลี่ยนไปจากเดิม ดังนี้- คำมีพยางค์มากขึ้น ภาษาไทยเป็นภาษาตระกูลคำโดด
คำส่วนใหญ่เป็นคำพยางค์เดียว เช่น พ่อ แม่ พี่ น้อง เดิน ยืน นั่ง นอน
เมือง เดือน ดาว ช้าง แมว ม้า ป่า น้ำ เป็นต้น เมื่อยืมคำภาษาอื่นมาใช้
ทำให้คำมีมากพยางค์ขึ้น เช่น
- คำสองพยางค์ เช่น บิดา มารดา เชษฐา กนิษฐา ยาตรา ธานี จันทร กุญชร วิฬาร์ เป็นต้น
- คำสามพยางค์ เช่นโทรเลข โทรศัพท์ พาหนะ จักรยาน ปรารถนา บริบูรณ์ เป็นต้น
- คำมากกว่าสามพยางค์ เช่น กัลปาวสาน สาธารณะ อุทกภัย วินาศกรรม ประกาศนียบัตร เป็นต้น
- มีคำควบกล้ำใช้มากขึ้น โดยธรรมชาติของภาษาไทยจะไม่มีคำควบกล้ำ
เมื่อรับภาษาอื่นเข้ามาใช้เป็นเหตุให้มีคำควบกล้ำมากขึ้น เช่น บาตร ศาสตร์
ปราชญ์ พรหม ปราศรัย โปรด ปลูก ทรวง เกรด เคลียร์ เอ็นทรานซ์ ดรัมเมเยอร์
เป็นต้น
- มีคำไวพจน์ใช้มากขึ้น (คำไวพจน์ คือ คำที่มีความหมายเหมือนกัน)
ซึ่งสะดวกและสามารถเลือกใช้คำได้เหมาะสมตามความต้องการและวัตถุประสงค์ เช่น
นก บุหรง ปักษา ปักษิน สกุณา วิหค
ม้า พาชี อาชา สินธพ หัย อัศวะ
ดอกไม้ กรรณิกา บุปผชาติ บุหงา ผกา สุมาลี
ท้องฟ้า คคนานต์ ทิฆัมพร นภดล โพยม อัมพร
น้ำ คงคา ชลาลัย ธารา มหรรณพ สาคร
พระจันทร์ แข จันทร์ นิศากร บุหลัน รัชนีกร
- มีตัวสะกดไม่ตรงตามมาตรา คำไทยแท้ส่วนใหญ่มีตัวสะกดตรงตามมาตรา
เมื่อได้รับอิทธิพลภาษาต่างประเทศ คำใหม่จึงมีตัวสะกดไม่ตรงตามมาตราจำนวนมาก เช่น
พิพาท โลหิต สังเขป มิจฉาชีพ นิเทศ ประมาณ ผจญ กัปตัน ปลาสเตอร์ คริสต์ เคเบิล ดีเซล โฟกัส เป็นต้น
- ทำให้โครงสร้างของภาษาเปลี่ยนไป เช่น
- ใช้คำ สำนวน หรือประโยคภาษาต่างประเทศ โดยเฉพาะภาษาอังกฤษ เช่น
สำนวนภาษาต่างประเทศ เขาพบตัวเองอยู่ในห้อง
สำนวนภาษาไทย เขาอยู่ในห้อง
สำนวนภาษาต่างประเทศ นวนิยายเรื่องนี้เขียนโดยทมยันตี
สำนวนภาษาไทย ทมยันตีเขียนนวนิยายเรื่องนี้
สำนวนภาษาต่างประเทศ มันเป็นเวลาบ่ายเมื่อข้าพเจ้ามาถึงอยุธยา
สำนวนภาษาไทย ข้าพเจ้ามาถึงอยุธยาเมื่อเวลาบ่าย
- ใช้คำภาษาต่างประเทศปนกับภาษาไทย ทั้ง ๆ ที่บางคำมีคำภาษาไทยใช้ เช่น
เธอไม่แคร์ ฉันไม่มายด์ เขาไม่เคลียร์
http://www.baanjomyut.com/library_2/extension-1/loanwords/01.html
http://www.baanjomyut.com/library_2/extension-1/loanwords/03.html
ภาษาต่างประเทศที่มีใช้ในภาษาไทย
ภาษาไทยมีคำยืมมาจากภาษาต่างประเทศหลายภาษา เช่น ภาษาเขมร
ภาษาจีน ภาษาชวา ภาษาบาลี ภาษาละติน
ภาษาสันสกฤต ภาษาอังกฤษ การยืมคำภาษาจีนมาใช้ในภาษาไทยนั้น มักยืมมาจากภาษาจีนแต้จิ๋วและภาษาจีนฮกเกี้ยนมากกว่าภาษา จีนสาขาอื่น เนื่องจากชาวจีนแต้จิ๋วและชาวจีนฮกเกี้ยนได้อพยพเข้ามาอยู่ในประเทศไทยก่อนชาวจีนกลุ่มอื่น คำภาษาจีนที่ยืมมาใช้ในภาษาไทยมีคำที่เกี่ยวข้องกับภาษา และวรรณคดี ความเชื่อ ศาสนา ประเพณี
คำภาษาจีนในภาษาไทย
คำภาษาจีนที่รวบรวมมานี้มีปรากฏในพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.
๒๕๔๒ ซึ่คัดเลือกมาเฉพาะคำที่อ้างอิงถึงภาษาจีน โดยอาจแบ่งได้เป็น ๒
กลุ่ม คือ๑. กลุ่มที่มี (จ.) กำกับ บอกที่มาของคำ เช่น กวยจี๊ ยี่ห้อ
๒. กลุ่มที่มีข้อความอ้างอิงว่ามาจากจีน เช่น ขงจื๊อ ฮกเกี้ยน
ตัวอย่างคำที่มาจากภาษาจีน
ก๊ก น. พวก, หมู่, เหล่า,
โดยปรกติมักใช้เข้าคู่กันว่า เป็นก๊กเป็นพวก เป็นก๊กเป็นหมู่
เป็นก๊กเป็น เหล่า. (จ. ว่า ประเทศ).กงเต๊ก น. การทำบุญให้แก่ผู้ตายตามพิธีของนักบวชนิกายจีนและญวน มีการสวดและเผากระดาษที่ทำเป็นรูปต่าง ๆ มีบ้านเรือน คนใช้ เป็นต้น. (จ.).
กงสี น. ของกองกลางที่ใช้รวมกันสำหรับคนหมู่หนึ่ง ๆ, หุ้นส่วน, บริษัท. (จ. กงซี ว่า บริษัททำการค้า, กิจการที่จัดเป็นสาธารณะ).
กวยจั๊บ น. ชื่อของกินชนิดหนึ่ง ทำด้วยแป้งที่ใช้ทำเส้นก๋วยเตี๋ยว แต่หั่นเป็นชิ้นใหญ่ ๆ ต้มสุกแล้วปรุงด้วยเครื่องมีหมูเป็นต้น. (จ.).
ก๋วยเตี๋ยว น. ชื่อของกินชนิดหนึ่ง ทำด้วยแป้งข้าวเจ้าเป็นเส้น ๆ ถ้าลวกสุกแล้วปรุงด้วยเครื่องมีหมูเป็นต้น.
กุยช่าย น. ชื่อไม้ล้มลุกชนิด Allium tuberosum Roxb. ในวงศ์ Alliaceae คล้ายต้นหอมหรือกระเทียม ใบแบน กลิ่นฉุน กินได้ นำเข้ามาปลูกเพื่อเป็นอาหาร, พายัพเรียก หอมแป้น. (จ.).
เก๊ ว. ปลอมหรือเลียนแบบเพื่อให้หลงผิดว่าเป็นของแท้, ไม่ใช่ของแท้, ไม่ใช่ของจริง, โดยปริยายหมาย ความว่าไม่มีราคา, ใช้การไม่ได้. (จ.).
เก๊ก (ปาก) ก. วางท่า; ขับไล่. (จ.).
เกาเหลา [–เหฺลา] น. แกงมีลักษณะอย่างแกงจืด. (จ.).
เก้าอี้ น. ที่สำหรับนั่ง มีขาและพนักพิง มักยกย้ายไปมาได้ มีหลายชนิด, ถ้ามีรูปยาวใช้นอน เรียกว่า เก้าอี้นอน, ถ้าใช้โยกได้ เรียกว่า เก้าอี้โยก, ลักษณนามว่า ตัว. (จ.).
เกี้ยมไฉ่ น. ผักดองเค็มชนิดหนึ่ง. (จ.).
เกี้ยมอี๋ น. ของกินชนิดหนึ่ง ทําด้วยแป้งข้าวเจ้า เป็นตัว ๆ คล้ายลอดช่อง. (จ. ว่า เจียมอี๊).
เกี๊ยว น. ของกินชนิดหนึ่งใช้แผ่นแป้งสาลีตัดเป็นสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ห่อหมูสับเป็นต้น. (จ.).
เกี๊ยะ น. เกือกไม้แบบจีน. (จ.)
จับฉ่าย น. ชื่ออาหารอย่างจีนชนิดหนึ่งที่ใส่ผักหลาย ๆ อย่าง. (ปาก) ของต่างๆที่ปะปนกันไม่เป็นสําหรับ ไม่เป็นชุด. (จ.).
จีนเต็ง น. หัวหน้าคนงานที่เป็นชาวจีน (ใช้เฉพาะในสถานที่ทําการร่วมกันมาก ๆ เช่น บ่อนหรือโรงสุรา).
จีนแส น. หมอ, ครู, ซินแส ก็ว่า. (จ. ซินแซ).
เจ น. อาหารที่ไม่ปรุงด้วยเนื้อสัตว์ และผักบางชนิดเช่นกระเทียม กุยช่าย ผักชี, แจ ก็ว่า. (จ. ว่า แจ).
เจ๊ง (ปาก) ก. เลิกล้มกิจการเพราะหมดทุน; สิ้นสุด. (จ.).
โจ๊ก น. ข้าวต้มชนิดหนึ่งที่ใช้ปลายข้าวต้มจนเละ. (จ.).
เฉาก๊วย น. ชื่อขนมชนิดหนึ่ง สีดํา ทําจากเมือกที่ได้จากการต้มเคี่ยวพรรณไม้ชนิดหนึ่ง ใส่แป้งลงไปผสม กวนให้ทั่ว ทิ้งไว้ให้เย็น กินกับนํ้าหวานหรือใส่นํ้าตาลทรายแดง. (จ.).
แฉโพย ก. เปิดเผยข้อที่ปิดบังหรือความลับ. (จ.).
ซวย (ปาก) ว. เคราะห์ร้าย, อับโชค. (จ.).
ซาลาเปา น. ชื่อขนมชนิดหนึ่งของจีน ทําด้วยแป้งสาลีปั้นเป็นลูกกลม ข้างในใส่ไส้ มีทั้งไส้หวานและไส้เค็ม.
ซินแส น. หมอ, ครู, จีนแส ก็ว่า. (จ.).
เซียน น. ผู้สำเร็จ, ผู้วิเศษ; โดยปริยายหมายความว่า ผู้ที่เก่งหรือชำนาญในทางใดทางหนึ่งเป็นพิเศษ เช่น เซียนการพนัน. (จ.).
เซียมซี น. ใบทํานายโชคชะตาตามศาลเจ้าหรือวัด มีเลขหมายเทียบกับเลขหมายบนติ้วที่เสี่ยงได้. (จ.).
ตะหลิว น. เครื่องมือทำด้วยเหล็ก ใช้แซะหรือตักของที่ทอดหรือผัดในกระทะ. (เทียบ จ. เตี้ยะ ว่า กระทะ + หลิว ว่า เครื่องแซะ, เครื่องตัก).
ตังฉ่าย น. ผักดองแห้งแบบจีนชนิดหนึ่ง ใช้ปรุงอาหาร. (จ.).
ตั๋ว น. บัตรบางอย่างที่แสดงสิทธิของผู้ใช้ เช่น ตั๋วรถ ตั๋วหนัง. (จ.).
ตุ๋น ก. ทำให้สุกด้วยวิธีเอาของใส่ภาชนะวางในภาชนะที่มีน้ำแล้วเอาฝาครอบ ตั้งไฟให้น้ำเดือด เช่น ตุ๋นไข่ ตุ๋นข้าว, เคี่ยวให้เปื่อย เช่น ตุ๋นเนื้อ ตุ๋นเป็ด. น. เรียกสิ่งที่ทำให้สุกโดยวิธีดังกล่าว เช่น ไข่ ตุ๋น เนื้อตุ๋น เป็ดตุ๋น; (ปาก) โดยปริยายหมายความว่า หลอกลวงเอาไปแทนหมดตัว, ผู้ถูกหลอกลวงเอาไปแทบหมดตัว เรียกว่า ผู้ถูกตุ๋น. (จ.).
เต้าเจี้ยว น. ถั่วเหลืองที่หมักเกลือสําหรับปรุงอาหาร. (จ.).
เต้าหู้ น. ถั่วเหลืองที่โม่เป็นแป้งแล้วทําเป็นแผ่น ๆ ใช้เป็นอาหาร มี ๒ ชนิด คือ เต้าหู้ขาว และเต้าหู้ เหลือง. (จ.).
เต้าฮวย น. ชื่อของหวานชนิดหนึ่ง ทําด้วยนํ้าถั่วเหลืองที่มีลักษณะแข็งตัว ปรุงด้วยนํ้าขิงต้มกับนํ้า ตาล. (จ.).
เถ้าแก่ น. ตำแหน่งข้าราชการฝ่ายในในพระราชสำนัก; ผู้ใหญ่ที่เป็นประธานในการสู่ขอและการ หมั้น; เรียกชายจีนที่เป็นผู้ใหญ่และมีฐานะดี, เรียกชายจีนที่เป็นเจ้าของกิจการ. (จ. เถ่าแก่).
บะหมี่ น. ชื่ออาหารชนิดหนึ่ง ทำด้วยแป้งสาลี เป็นเส้นเล็ก ๆ มีสีเหลือง ลวกสุกแล้วปรุงด้วยเครื่อง มีหมูเป็นต้น. (จ.).
ปุ้งกี๋ น. เครื่องสานรูปคล้ายเปลือกหอยแครง สําหรับใช้โกยดินเป็นต้น, บุ้งกี๋ ก็ว่า. (จ.).
เปีย ๑ น. ผมที่ไว้ยาวบริเวณท้ายทอย, ผมที่ถักห้อยยาวลงมา, ผมเปีย หรือ หางเปีย ก็เรียก, เรียก ลายที่ถักตอก ๓ ขาไขว้กันว่า ลายเปีย หรือ ลายผมเปีย; พวงมาลัยที่มีอุบะห้อยลงมาเหมือน ผมเปีย. (จ.).
เปีย ๒ น. ชื่อขนมอย่างหนึ่ง ทําด้วยแป้งเป็นชั้น ๆ มีไส้ใน, ขนมเปียะ หรือ ขนมเปี๊ยะ ก็ว่า. (จ.).
โป๊ ก. ส่งเสริมสิ่งที่บกพร่อง เช่น ยาโป๊, ทําสิ่งยังบกพร่องอยู่ให้สมบูรณ์ เช่น เอาสีโป๊ตรงที่เป็นช่อง เป็นรู ก่อนทาสีเอาปูนโป๊รอยที่ชํารุด. (จ. โป้ว ว่า ปะชุนเสื้อผ้า, ซ่อมแซม, บำรุงร่างกาย). (ปาก) ว. เปลือยหรือค่อนข้างเปลือย เช่น รูปโป๊, มีเจตนาเปิดเผยอวัยวะบางส่วนที่ควรปกปิด เช่น แต่งตัวโป๊.
หุน น. ชื่อมาตราวัดหรือชั่งของจีน ในมาตราวัด ๑ หุน หมายถึงเส้นผ่าศูนย์กลาง ๑.๕ ใน ๑๖ ของ นิ้ว ในมาตราชั่ง ๕ หุน เท่ากับ ๑ เฟื้อง. (จ.).
เหลา [เหฺลา] น. ภัตตาคาร. (จ.).
อั้งยี่ น. สมาคมลับของคนจีน; (กฎ) ชื่อความผิดอาญาฐานเป็นสมาชิกของคณะบุคคลซึ่งปกปิดวิธี ดําเนินการและมีความมุ่งหมายเพื่อการอันมิชอบด้วยกฎหมาย เรียกว่า ความผิดฐานเป็นอั้งยี่. (จ.).
อั้งโล่ น. เตาไฟดินเผาชนิดหนึ่งของจีน ยกไปได้. (จ.).
เอี๊ยม น. แผ่นผ้าสําหรับคาดหน้าอกเด็กเล็ก ๆ, เต่า ก็ว่า. (ดู เต่า ๒). (จ.).
เอี้ยมจุ๊น น. ชื่อเรือขนาดใหญ่ ต่อด้วยไม้ ท้องเรือเป็นสัน สําหรับขนถ่ายและบรรทุกสินค้า. (จ.).
ฮวงซุ้ย น. ที่ฝังศพของชาวจีน, ฮวงจุ้ย ก็ว่า. (จ.).
เฮง (ปาก) ว. โชคดี, เคราะห์ดี. (จ. เฮง ว่า โชคดี).
เฮงซวย (ปาก) ว. เอาแน่นอนอะไรไม่ได้, คุณภาพต่ำ, ไม่ดี, เช่น คนเฮงซวย ของเฮงซวย เรื่อง เฮงซวย. (จ. เฮง ว่า โชคดี, ซวย ว่า เคราะห์ร้าย, เฮงซวย ว่า ไม่แน่นอน).
เฮี้ยน (ปาก) ว. มีกําลังแรงหรือมีอํานาจศักดิ์สิทธิ์ที่อาจบันดาลให้เป็นไปได้. (จ.).
ภาษามลายูในภาษาไทย
ภาษามลายูที่มีอยู่ในภาษาไทยนั้น จะแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ
คือกลุ่มที่หนึ่งเป็นคำที่ใช้เฉพาะในท้องถิ่นภาคใต้ของประเทศไทยที่อยู่ใกล้เคียงหรือติดต่อกับมลายูหรือประเทศมาเลเซีย
กลุ่มที่สองเป็นคำที่มีใช้ในชีวิตประจำวันโดยทั่วไปไม่ว่าจะเป็นภูมิภาคใด
และกลุ่มที่สามเป็นคำที่มีใช้เฉพาะในวรรณคดี เป็นต้นคำ ความหมาย
กาหยู,ยาร่วง มะม่วงหิมพานต์
เกาะตะ,กอตะ,โกตะ กล่องบุหรี่ของชาวประมง ทำด้วยไม้มีเชือกผูกแขวนไว้
กระดังงา ดอกไม้ชนิดหนึ่งมีกลิ่นหอม
กัด อวนขนาดย่อม สำหรับดักปลาซึ่งอยู่ผิวน้ำ
ฆง ข้าวโพด
ฆอและ ไก่ทั้งตัวที่แกงเสร็จแล้ว แกงกับเครื่องเทศผัดกับกะทิ
พรก กะลามะพร้าว
พรัด เรียกฝนหรือมรสุมตะวันตกพัดเข้ามาว่า ฝนพลัด
โพระ ที่ลุ่มมีน้ำขัง
โจ ยันต์ที่ใช้เขียนไว้ตามต้นไม้
จิ้งจัง เป็นปลาตัวเล็กๆหมักเกลือและมีน้ำด้วย
บูดู น้ำเคยที่ได้จากปลาหมักเกลือจนเนื้อเปื่อยใช้เป็น อาหาร
ปอเนาะ โรงเรียนที่สอนหนังสือและอบรมศาสนาอิสลาม
ปากวะ,ปากระวะ บึงใหญ่
ทำหวะ การเข้าหุ้นกันระหว่างนายทุนกับกรรมกร โดยมากใช้กับการทำนาโดยเจ้านาให้คนอื่นมาทำนาแล้วแบ่งผลกันตามเงื่อนไข
ลูกหลุ้มหมา ลูกอินทผลัม
ลูกลิ่งปิ้ง เรียกกันในจังหวัดนครศรีธรรมราช,ในสุราษฏร์ธานีเรียก ลูกเล่งเป้ง
ลูกสวา ลูกละมุดฝรั่ง
ลูกละไม ลูกมะไฟเปลือกเหลือง
ผรา หิ้งที่วางของแขวนอยู่เหนือเตาไฟในครัวมักทำด้วยไม้ไผ่
ลูกหัวคล็อก มะม่วงหิมพานต์
หลุด ดินโคลน ชาวปักษ์ใต้พูดว่า “หลุดติดตีน” แปลว่า “โคลนติดเท้า”
โหละปลา การเอาไฟส่องหาปลาในน้ำตื้น หรือในน้ำใส
หว้า โชคหรือวาสนา
หว้าดี โชคดี
หวาก กะแช่หรือน้ำตาลเมา
มูสัง อีเห็น(สัตว์วงศ์เดียวกับชะมด)
มายา ปุ๋ย
หมา หรือ ติหมา ภาชนะที่ใช้ตักน้ำจากบ่อ ทำด้วยกาบหมาก
ลาต้า บ้าจี้
ภาษาเขมรในภาษาไทย
ภาษาเขมรเข้ามาสู่ประเทศไทยโดยทางการค้า ทางสงครามการเมืองและวัฒนธรรม
คำที่มาจากภาษาเขมรส่วนใหญ่ที่พบมักใช้ในวรรณกรรม วรรณคดี คำราชาศัพท์ และใช้ในชีวิตประจำวัน มีหลักในการสังเกตดังนี้
๑) คำภาษาเขมรมักไม่มีวรรณยุกต์
๒) คำภาษาเขมรมักไม่ประวิสรรชนีย์
๓) มักใช้ ร ล ญ เป็นตัวสะกดในมาตรา แม่ กน
๔) มักใช้ จ ส เป็นตัวสะกดในมาตรา แม่ กด
๕) มักเป็นคำควบกล้ำและอักษรนำ
๖) คำราชาศัพท์บางคำมาจากภาษาเขมร
๗) คำที่ขึ้นต้นด้วย บัง บัน บำ บรร มักมาจากภาษาเขมร
๘) คำที่ขึ้นต้นด้วย กำ คำ จำ ชำ ดำ ตำ ทำ มักมาจากภาษาเขมร
๙) คำภาษาเขมรส่วนใหญ่มักแผลงคำได้
การสังเกตคำภาษาเขมรมีวิธีการดังนี้
- คำไทยที่มาจากภาษาเขมรมักใช้พยัญชนะ จ ญ ร ล สะกด
เช่น เผด็จ สมเด็จ เดิร ( เดิน ) ถวิล ชาญ
- คำไทยที่มาจากภาษาเขมรมักเป็นคำควบกล้ำและเป็นคำมากพยางค์
เช่น ขลาด โขมด โขนง เสวย ไถง กระบือ
- คำไทยที่มาจากภาษาเขมรมักใช้ บัง บัน บำ แทน บ เช่น
บัง บังคับ บังคม บังเหียน บังเกิด บังคล บังอาจ
บัน บันได บันโดย บันเดิน บันดาล บันลือ
บำ บำเพ็ญ บำบัด บำเหน็จ บำบวง
- คำไทยที่มาจากภาษาเขมรโดยแผลงคำมีหลายพวก
- ข แผลงเป็น กระ เช่น ขดาน เป็น กระดาน ขจอก เป็น กระจอก
- ผ แผลงเป็น ผสม - ประสม ผจญ - ประจญ
- ประ แผลงเป็น บรร ประทม เป็น บรรทม ประจุ - บรรจุ ประจง - บรรจง
- คำไทยที่มาจากภาษาเขมรที่เป็นคำโดด เช่น แข โลด เดิน นัก อวย ศก เลิก
ตัวอย่างภาษาเขมรในภาษาไทย
คำ ความหมาย
แข พระจันทร์
เสวย กิน
จุ ทำให้ลง
เจาะ ปัก
เพ็ญ เต็ม
ลาด ตรวจ,เที่ยวดู
เลิศ ดี
อวย ให้
เลอ เหนือ
โลด ดู
ศก ผม,ระบบการนับเวลาเรียงลําดับกันเป็นปี ๆ
เลิก ยก
เชลง ประพันธ์,แต่ง
คำนวณ เลข
ลือ ดัง
ไถง ตะวัน,วัน
โขมด กระหมวด; จอมประสาทหัวช้าง หรือ ชื่อผีชนิดหนึ่งในพวกผีกระสือหรือผีโพง
กระบือ ควาย
กำเพลิง ปืน
ขลา เสือ
เขลา โง่
โขนง ขนง, คิ้ว
เขนย หมอน
เชลย ข้าศึกที่ถูกจับได้
ฉนัง หม้อ
บันดาล ให้เกิดมีขึ้นเป็นขึ้นด้วยแรงอํานาจของสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
บังคับ ใช้อํานาจสั่งให้ทําหรือให้ปฏิบัติ
บังเกิด เกิด
บังคล มอบให้
บังคม แสดงความเคารพ
บันได สิ่งที่ทําเป็นขั้น ๆ สําหรับก้าวขึ้นลง
บันโดย พลอยแสดง
บรรทม นอน
บำเพ็ญ ทําให้เต็มบริบูรณ์, เพิ่มพูน
บำบวง บนบาน, เซ่นสรวง, บูชา
บรรจุ ใส่ลงไว้ในภาชนะหรือสถานที่ที่ใดที่หนึ่งที่มิดชิด
บังเหียน เครื่องบังคับม้าให้ไปในทางที่ต้องการ ทําด้วยเหล็กหรือไม้ใส่ผ่าปากม้า
ถวิล คิด, คิดถึง
สมเด็จ คํายกย่องหน้าชื่อฐานันดรศักดิ์โดยกำเนิดหรือแต่งตั้ง หมายความว่า ยิ่งใหญ่หรือประเสริฐ
เสด็จ เดิน,ไป
..... อ่านต่อได้ที่: https://www.gotoknow.org/posts/490649
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น